เป็นปกติที่ในครอบครัวๆ หนึ่ง ที่พ่อแม่มักจะสลับกันสวมบทบาทรับหน้าที่ของ Bad cop ที่คอยดูแลความประพฤติของลูก คอยสอน และลงโทษเมื่อมีพฤติกรรมที่ไม่ถูกไม่ควร ส่วน Good cop คอยโอ๋ คอยปลอบลูก สวมบทบาทเป็นเป็นพ่อแม่ที่แสนใจดี
ในบ้านเรานั้น แม่ก็มักจะได้รับบทบาทเป็น Bad cop ส่วนคุณพ่อก็มักจะเป็น Good cop ค่ะ เพราะแม่ชอบสอน ชอบจัดระเบียบ นั่นเอง
แล้วเคยได้ยินคำว่า “พ่อแม่รังแกฉัน” ไหมคะ หลายคนคงเคยเห็นหรือรู้จักคนที่ได้รับการเลี้ยงดูแบบนี้ เท่าที่เราเห็นคือบางคนไม่มีความกระตือรือร้นที่จะดิ้นรนหาเลี้ยงตัวเอง หรือทำอะไรสักอย่างกับชีวิตตัวเองเพื่อให้มีคุณค่า โตผู้ใหญ่แล้วชีวิตยังคงผูกติดกับการแบมือขอเงินพ่อแม่ต่อไป
เราจึงตัดสินใจว่าถ้าเราอยากสอนลูกให้รู้จักและเข้าใจคอนเซ็ปต์เรื่องเงินว่ากว่าจะได้เงินเราต้องแลกด้วยอะไรมาบ้าง อนาคตเค้าจะได้ไม่ลำบาก จะเรียกเราว่ากังวลมากเกินไปก็อาจจะได้เพราะลูกก็อายุแค่ 9 ขวบ แต่ไม้อ่อนดัดง่ายไม้แก่ดัดยากค่ะ รอจนเป็นวัยรุ่นก็เกรงว่าจะสายไป
ศึกษาหาไอเดียมาหลายที่ จนคิดว่ากิจกรรมที่เหมาะที่สุดคือ การทำงานบ้านแลกค่าขนม โดยถ้าเค้าช่วยทำงานบ้านตามรายการที่เรากำหนดก็จะได้เงินค่าขนมเป็นของตนเอง ราคาก็แตกต่างกันไปตามความยากง่ายของงาน
เขียนรายการเสร็จด้วยความภาคภูมิใจ เราเดินก็ไปบอกกับลูกว่า ถ้าอยากได้เงินค่าขนมไปใช้ส่วนตัวก็ต้องหามานะคะ ถ้าหนูช่วยทำงานบ้านตามรายการนี้ หนูก็จะได้ค่าขนมตามนี้ค่ะ พร้อมกับโชว์กระดาษจดรายการที่เราเขียนเอาไว้อย่างตั้งใจให้ลูกดู
ผลที่ได้ คือลูกต่อต้านแบบหัวชนฝาค่ะ โวยวายว่า“ทำไมหนูต้องทำงานด้วยล่ะกว่าจะได้เงินใช้” “ทำไมไม่ให้เงินเค้าไปใช้ง่ายๆ เหมือนเพื่อนบ้าง” “ทำไมแม่ถึงไม่ใจดีเหมือนแม่คนอื่น” ฯลฯ
นับเป็นคำพูดที่ทิ่มแทงหัวใจคุณแม่คนนี้มากมาย ได้ยินแล้วก็รู้สึกเสียใจ และน้อยใจนะคะว่าทำไมแม่คนนี้ต้องเป็นผู้ร้ายในสายตาลูกตลอดเวลา ทำไมลูกถึงมองไม่เห็นความหวังดีของเรา
อยากจะบอกลูกไปว่าสิ่งที่แม่ทำเนี่ย มันยากยิ่งกว่าการตามใจลูกเยอะมาก จริงๆ แล้วแม่ก็อยากหาทางออกง่ายๆ โดยการตามใจลูกนะ แต่พอเห็นตัวอย่างของชีวิตพังๆ ของคนที่โดนเลี้ยงแบบนี้มานักต่อนักแล้วเนี่ย แม่คงต้องจำใจที่จะสวมบทบาทเป็น “คุณแม่ที่ไม่ใจดีเหมือนแม่คนอื่น” ต่อไป
ถึงจะเสียใจ แต่แม่ก็รู้ดีว่าผลของการกระทำของแม่ มันอาจจะส่งผลไปถึงอนาคตของลูกที่ต้องพังทลายลงไปเพราะสองมือของแม่เอง ทำให้แม่ต้องตัดสินใจเลือกทางเดินที่ยากและแสนลำบากใจเพื่ออนาคตของลูก
คุณพ่อคุณแม่หลายคนคงเคยเจอแบบนี้มาบ้าง อย่าเพิ่งท้อนะคะ ลูกยังเด็กอาจจะยังไม่เข้าใจในสิ่งที่เราทำ แต่ตัวเราเองต้องชัดเจน ต้องทำการบ้านมาอย่างดีแล้วว่าเป้าหมายของการกระทำนั้นคืออะไร แล้วเตือนตัวเองไว้เสมอว่าผลลัพธ์ที่ได้มันก็เพื่ออนาคตของลูกนั่นแหละ
ดังนั้นเมื่อเราเลือกเดินทางนี้แล้วต้องทำใจ กินยาขมกันต่อไป แล้วคอยดูว่าผลลัพธ์ที่ได้นั้นจะหวานชื่นยิ่งกว่าความขมขื่นที่เราได้รับในชีวิตในตอนนี้มากขนาดไหนค่ะ
แม่แอ๊นท์
แม่ที่ไม่สมบูรณ์แบบ
อ่านต่อ
ความสัมพันธ์เกือบ “พัง” เพราะมี “ลูก”
จดหมายเปิดผนึกจากแม่ทำงานถึงลูก “หนูรู้ไหม ทำไมแม่ต้องออกไปทำงาน”